โลกทั้งใบให้นายคนเดียว
หนังรักวัยรุ่นที่โด่งดังแบบสุดๆ ย้ำว่าดังมากกกกกกก โอ๊ย อะไรจะขนาดนั้น แต่เป็นเรื่องจริงพี่ปุ๋ยไม่ได้มโน เพราะแค่รายชื่อนักแสดงนำอย่างเต๋า สมชาย, นุ๊ก สุทธิดา และปราโมทย์ แสงศร ก็บอกได้ถึงความปัง เล่นกวาดตัวพ่อตัวแม่วัยรุ่นยุคนั้นมารวมไว้ในเรื่องเดียวได้ แถมด้วยเนื้อหาดราม่าปัญหาครอบครัว พร้อมกับรักสามเศร้าของพี่น้องที่แอบรักผู้หญิงคนเดียวกัน! ลองนึกภาพหนังออกฉายปี พ.ศ. 2538 แต่กวาดรายได้ถล่มทลายไปถึง 55 ล้านบาท (ทั้งที่สมัยนั้นตั๋วหนังราคาไม่เกินร้อยบาทนะจ๊ะ) ถือเป็นรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์หนังไทยในขณะนั้น นอกจากหนังแล้วที่ปัง ยังมีเพลงฮิตๆ ที่ร้องตามกันได้ทั่วบ้านทั่วเมือง "ตางคนต่างพูดไม่ออก ได้แต่มองตาเท่านั้น รักที่ให้กัน เหมือนโดนกั้นขวางทางไป..." เบรกหน่อยไม่งั้นพี่ปุ๋ยร้องจบนะ
กี่ปีแล้วเนี้ยนุ๊กหน้าแทบไม่เปลี่ยนเลยอะ
(ภาพประกอบจากภาพยนตร์เรื่อง โลกทั้งใบให้นายคนเดียว)
วัยระเริง
ภาพยนตร์ที่สะท้อนปัญหาสังคมวัยรุ่นและนำเสนอบทบาทความเป็นครูได้ยอดเยี่ยมมาก แถมกวาดรางวัลไปไม่น้อย เรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ในวัยระเริงกับการก้าวข้ามปัญหาต่างๆ โดยมีคุณครูคอยดึงสตินักเรียนเหล่านี้ให้กลับตัวกลับใจ และใช้ดนตรีเป็นตัวช่วย งานดี งานดัง ปังจริง ทั้งเวอร์ชั่น พ.ศ. 2541 ของหลุยส์ สก็อต แต่เวอร์ชั่นพี่หนุ่ย อำพล ปี พ.ศ. 2527 ที่แจ้งเกิดเป็นเรื่องแรกด้วย!
สมัยนั้นพี่หลุยส์ สก๊อตผมยาวอยู่เลย
(ภาพประกอบจากภาพยนตร์เรื่อง วัยระเริง)
แบบว่าโลกนี้มี...น้ำเต้าหู้ และครูระเบียบ
เป็นหนังวัยรุ่นชีวิตมัธยมปลาย น่ารักสดใส มุ้งมิ้งๆ ตามเทรนด์หนังวัยรุ่นยุคนั้น และชุดนักเรียนหญิงไม่บอกก็รู้ว่าที่บ้านมีฐานะ สาวๆ กระโปรงแดง เสื้อแขนยาว และเทคไทในลุคคุณหนู เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของทีมวอลเล่ต์บอลนักเรียน ม.ปลาย ที่กำลังจะถูกยุบเพราะไม่เคยมีผลงานเข้าตา จนมีครูระเบียบนี่แหละค่ะ ที่ขี่ม้าขาวอาสาจะพาไปช่วย แต่จะช่วยได้หรือไม่ เกี่ยวอะไรมั้ยกับน้ำเต้าหู้ ต้องลองดูค่ะ เรื่องนี้เป็นการจับคู่ขวัญ กบ-หนุ่ม มาประชันบทบาทกันบนโรง ในปี พ.ศ. 2537 ซึ่งได้รับกระแสตอบรับดีมากๆ จนถึงกับเปิดโปรเจคสร้างภาค 2 กันเลยทีเดียว
![ย้อนดู 9 หนังไทยแนววัยรุ่นมัธยม ที่ปังสุดๆ ในยุค 90 ย้อนดู 9 หนังไทยแนววัยรุ่นมัธยม ที่ปังสุดๆ ในยุค 90](https://image.dek-d.com/contentimg/2016/puy/T3.jpg)
หนุ่มศรราม กับ กบ สุวนันท์ คู่ขวัญในยุค 90 ที่เล่นเรื่องไหนเรื่องนั้นดังระเบิดจ้า
(ภาพประกอบจากภาพยนตร์เรื่อง แบบว่าโลกนี้มี...น้ำเต้าหู้ และครูระเบียบ)
กระโปรงบานขาสั้น
เป็นหนังรักขวัญใจวัยรุ่นยุคนั้นเลยจ้า เรื่องนี้ฉายครั้งแรกใน ปี พ.ศ. 2536 เป็นเรื่องราวความรักของนักเรียนวัยมัธยม แนวแอบรักเพื่อนแต่ไม่กล้าบอก แถมยังมีอุปสรรคขัดขวางเป็นเพื่อนร่วมชั้นอีก กว่าพระนางได้ลงเอยกัน เล่นทำคนดูลุ้นจนฉากสุดท้าย ถ้าใครย้อนไปดูหนังเก่าจะสังเกตได้ ยังเป็นยุคที่นักเรียนหญิงฮิตใส่กระโปรงนักเรียนยาวเกือบตาตุ่ม เสื้อตัวโคล่งๆ อยู่เลย แถมนางเอกยังถักสองเปียด้วย กระแสตอบรับเรื่องนี้ พี่ปุ๋ยก็ไม่อยากอวดอ้างมาก เอาเป็นว่า ดีถึงขนาดต้องสร้างภาค 2 ต่อ กับ กระโปรงบานขาสั้น เทอม 2 ตอน แอบดูบาร์บีคิว ที่เข้าฉายเมื่อปี พ.ศ. 2537 และต่อมา ปี พ.ศ. 2554 เรื่องนี้ยังถูกสร้างเป็นละครทีวีให้ได้แฟนๆ ได้นึกถึงกันอีก เรียกปังจริงอะไรจริงจ้า
303 กล้ว กล้า อาฆาต
น่ารักมิ้งมุ้งๆ กันไปเยอะแล้ว เรื่องนี้ของแหวกแนวกันหน่อยเป็นหนังแนวสยอง ขอบอกว่าถูกอกใจถูกขวัญวัยรุ่นยุคนั้นไม่น้อยกับเรื่อง 303 กลัว กล้า อาฆาต (ปี พ.ศ. 2541) ด้วยความที่เป็นหนังสวนกระแสในตอนนั้นทำให้ดังเปรี้ยงปร้างเกินความคาดหมาย กับเรื่องราวหลอนๆ ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อนักเรียนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันสืบสาเหตุการฆ่าตัวตายของรุ่นพี่ จนเป็นจุดเริ่มต้นของความน่าสะพรึง! และไม่ใช่แค่เนื้อเรื่องหลอนๆ ที่โดนใจผู้ชมเท่านั้น แต่นักแสดงนำฝ่ายชายนี่กวาดหนุ่มหล่อมาหมด อย่างพี่ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ที่อาจจะออกไม่เยอะ แต่ออกทีกรี๊ดหนักมาก, อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม, ริว อาทิตย์ และพี่เวย์ ไทเทเนี่ยม ที่ใครอยากเห็นในมุมใสๆ มาดูได้ที่เรื่องนี้! น้องๆ ล่ะคะอยู่ทีมไหน เลือกเอาที่สบายใจกันจ้า พี่ปุ๋ยขอเลือกทีมพี่ติ๊กเท่านั้น อิอิ
![ย้อนดู 9 หนังไทยแนววัยรุ่นมัธยม ที่ปังสุดๆ ในยุค 90 ย้อนดู 9 หนังไทยแนววัยรุ่นมัธยม ที่ปังสุดๆ ในยุค 90](https://image.dek-d.com/contentimg/2016/puy/T.jpg)
ในส่วนของผู้หญิง มีเทย่า โรเจอร์ที่ดังมากๆ ในยุคนั้นด้วย
ภาพประกอบจากภาพยนตร์เรื่อง 303 กลัว กล้า อาฆาต
กลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้
หนังแก๊งวัยรุ่นในตำนานต้องเรื่องนี้เลยค่ะ กลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้ โด่งดังแบบสุดๆ เนื้อหาโดนใจก๊วนแสบขาโจ๋ประจำโรงเรียนทั้งหลาย โดยเป็นเรื่องราวของ 6 หนุ่มแก๊งหินกลิ้ง แก๊งป่วนประจำโรงเรียน ที่สร้างวีรกรรมไม่เว้นแต่ละวัน เรียกว่าเดินเข้าออกห้องปกครองเป็นว่าเล่น (ห้ามเลียบแบบนะจ๊ะ) เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นได้อย่างชัดเจน ทำให้หนังเรื่องนี้ได้กระแสตอบรับดีมากๆ โดยเข้าฉายครั้งแรกในปี พ.ศ. 2534 ที่มีทั้งพี่มอสและพี่แท่งนำทีมแจ้งเกิดในวงการไปอย่างสวยงาม แถมกวาดรายได้ถล่มทลาย เป็นหนังที่ทำรายได้สูงสุดในยุคนั้น แน่นอนว่าจากกระแสความนิยมที่ได้รับอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดแก๊งหินกลิ้ง รุ่น 2 รุ่น 3 โดยสร้างเป็นบทละครทางทีวี ไม่ว่ารุ่นไหนก็ได้ความนิยม ว่าแต่มีใครทันรุ่นไหนกันบ้างเอ่ย มาแชร์กันหน่อย
![ย้อนดู 9 หนังไทยแนววัยรุ่นมัธยม ที่ปังสุดๆ ในยุค 90 ย้อนดู 9 หนังไทยแนววัยรุ่นมัธยม ที่ปังสุดๆ ในยุค 90](https://image.dek-d.com/contentimg/2016/puy/t6.jpg)
มีใครทันแก็งหินกลิ้งรุ่นบ้าง ต้องทันสักรุ่นสิเนอะ อิอิ
(ภาพประกอบจากภาพยนตร์เรื่องกลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้ และภาพประกอบละครกลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้)
ม.6/2 ห้องครูวารี
ต้องบอกว่าเป็นหนังที่ดูจบแล้วอยากกระโดดหอมแก้มคุณครูเลยค่ะ จุ๊บๆ เป็นหนังที่สื่อถึงมุมมองความรักที่ครูมีต่อลูกศิษย์ เรียกน้ำตาไปหลายปี๊บเลย โดยมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับคุณครูฝึกสอนผู้เสียสละ ไม่เคยทอดทิ้งลูกศิษย์ แม้ลูกศิษย์จะหลงผิดแค่ไหน สุดท้ายแล้วนักเรียนจะทำให้คุณครูสมหวังหรือไม่ต้องลองดูค่ะ เรื่องนี้เข้าฉายครั้งแรกในปี พ.ศ. 2539 จากกระแสที่ปังแล้ว ยังมีประโยคฮิตๆ ที่หลายคนต่างพูดถึง "มีครูผิดคิดจนครูตี มีครูวารีตีก็ตี...ทนได้"
![ย้อนดู 9 หนังไทยแนววัยรุ่นมัธยม ที่ปังสุดๆ ในยุค 90 ย้อนดู 9 หนังไทยแนววัยรุ่นมัธยม ที่ปังสุดๆ ในยุค 90](https://image.dek-d.com/contentimg/2016/puy/t7.jpg)
สังเกตดีๆ แก๊งเพื่อนในเรื่องนี้แต่ละคนมีชื่อเสียงกันทั้งนั้น (ภาพประกอบจากภาพยนตร์เรื่องม.6/2 ห้องครูวารี)
กู๊ดบายซัมเมอร์ เอ้อเหอเทอมเดียว
เรื่องนี้โกอินเตอร์กันหน่อยแถมชื่อเรื่องก็ดูยาวๆ งงๆ ไม่ต้องตกใจไปค่ะ เพราะเป็นยุคที่หนังไทยชอบตั้งชื่อยาวๆ ฮาๆ บางทีอ่านชื่อเรื่องแล้วอยากจะร้อง ห้ะ! อะไรนะ ด้วยซ้ำไป เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของนักเรียนสุดแสบทั้ง 7 คนที่ได้ไปเรียนซัมเมอร์ในต่างประเทศ (ยุคนั้นฮิตส่งน้องๆ มัธยมไปซัมเมอร์ แถมยังเป็นยุคที่ฮิตดารานักแสดงลูกครึ่งซะด้วย) และเรื่องปวดหัวเริ่มตั้งแต่พวกเขาเหยียบเท้าลงบนสนามกันเลยทีเดียว นี่แหละตัวแสบของจริง! ซึ่งระหว่างเรียนได้เกิดเรื่องวุ่นๆ มากมาย และนั่นเป็นจุดเริ่มของมิตรภาพและความผูกพันระหว่างเพื่อน เรื่องนี้เข้าฉายครั้งแรกในปี พ.ศ. 2539 ได้รับกระแสตอบรับดีมากๆ โดยเฉพาะชื่อเรื่องที่ติดหูวัยรุ่นยุคนั้นสุดๆ
มาปิดท้ายด้วยหนังรักวัยรุ่นในตำนานที่ไม่ดูไม่ได้! เรื่องราวของความรักของวัยรุ่นที่เพิ่งจะผ่านพ้นชีวิตมัธยม และกำลังจะเริ่มต้นใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัยโดยมีจักรยานสีแดงเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่จะเกี่ยวข้องยังไงไม่บอก ลองไปดูเองค่ะ เรื่องนี้เข้าฉายครั้งแรกในปี พ.ศ. 2540 และได้สองซุปตาร์ มอส ปฏิภาณ และ ทาทา ยัง มาแสดงนำ แน่นอนกระแสตอบรับปังถล่มทลาย เรื่องรายได้ก็เช่นกันกวาดไปแบบสวยถึง 49 ล้านบาทเป็นหนังอีกเรื่องที่เป็นขวัญใจวัยรุ่นยุคนั้น แถมยังดันให้เพลงประกอบหนังปังไปด้วยกัน ทั้งเพลงจักรยานสีแดง ของพี่เสก โลโซ เพลงเพียงเพือน ของมอสและทาทา และยังจับเอาเพลงแมลงมาเล่นได้อย่างน่ารักน่าชัง จนใครๆ ก็จำวิธีการท่องชื่อวิทยาศาสตร์แมลงได้แม่น เอ้า! ไดทิสสิด ไดทิสสิด ไดทิสสิดคือ... ด้วงดิ่ง แลมไพริด แลมไพริด แลมไพริดคือ... หิ่งห้อย
หนังรักวัยรุ่นที่โด่งดังแบบสุดๆ ย้ำว่าดังมากกกกกกก โอ๊ย อะไรจะขนาดนั้น แต่เป็นเรื่องจริงพี่ปุ๋ยไม่ได้มโน เพราะแค่รายชื่อนักแสดงนำอย่างเต๋า สมชาย, นุ๊ก สุทธิดา และปราโมทย์ แสงศร ก็บอกได้ถึงความปัง เล่นกวาดตัวพ่อตัวแม่วัยรุ่นยุคนั้นมารวมไว้ในเรื่องเดียวได้ แถมด้วยเนื้อหาดราม่าปัญหาครอบครัว พร้อมกับรักสามเศร้าของพี่น้องที่แอบรักผู้หญิงคนเดียวกัน! ลองนึกภาพหนังออกฉายปี พ.ศ. 2538 แต่กวาดรายได้ถล่มทลายไปถึง 55 ล้านบาท (ทั้งที่สมัยนั้นตั๋วหนังราคาไม่เกินร้อยบาทนะจ๊ะ) ถือเป็นรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์หนังไทยในขณะนั้น นอกจากหนังแล้วที่ปัง ยังมีเพลงฮิตๆ ที่ร้องตามกันได้ทั่วบ้านทั่วเมือง "ตางคนต่างพูดไม่ออก ได้แต่มองตาเท่านั้น รักที่ให้กัน เหมือนโดนกั้นขวางทางไป..." เบรกหน่อยไม่งั้นพี่ปุ๋ยร้องจบนะ
กี่ปีแล้วเนี้ยนุ๊กหน้าแทบไม่เปลี่ยนเลยอะ
(ภาพประกอบจากภาพยนตร์เรื่อง โลกทั้งใบให้นายคนเดียว)
(ภาพประกอบจากภาพยนตร์เรื่อง โลกทั้งใบให้นายคนเดียว)
วัยระเริง
ภาพยนตร์ที่สะท้อนปัญหาสังคมวัยรุ่นและนำเสนอบทบาทความเป็นครูได้ยอดเยี่ยมมาก แถมกวาดรางวัลไปไม่น้อย เรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ในวัยระเริงกับการก้าวข้ามปัญหาต่างๆ โดยมีคุณครูคอยดึงสตินักเรียนเหล่านี้ให้กลับตัวกลับใจ และใช้ดนตรีเป็นตัวช่วย งานดี งานดัง ปังจริง ทั้งเวอร์ชั่น พ.ศ. 2541 ของหลุยส์ สก็อต แต่เวอร์ชั่นพี่หนุ่ย อำพล ปี พ.ศ. 2527 ที่แจ้งเกิดเป็นเรื่องแรกด้วย!
สมัยนั้นพี่หลุยส์ สก๊อตผมยาวอยู่เลย
(ภาพประกอบจากภาพยนตร์เรื่อง วัยระเริง)
แบบว่าโลกนี้มี...น้ำเต้าหู้ และครูระเบียบ
เป็นหนังวัยรุ่นชีวิตมัธยมปลาย น่ารักสดใส มุ้งมิ้งๆ ตามเทรนด์หนังวัยรุ่นยุคนั้น และชุดนักเรียนหญิงไม่บอกก็รู้ว่าที่บ้านมีฐานะ สาวๆ กระโปรงแดง เสื้อแขนยาว และเทคไทในลุคคุณหนู เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของทีมวอลเล่ต์บอลนักเรียน ม.ปลาย ที่กำลังจะถูกยุบเพราะไม่เคยมีผลงานเข้าตา จนมีครูระเบียบนี่แหละค่ะ ที่ขี่ม้าขาวอาสาจะพาไปช่วย แต่จะช่วยได้หรือไม่ เกี่ยวอะไรมั้ยกับน้ำเต้าหู้ ต้องลองดูค่ะ เรื่องนี้เป็นการจับคู่ขวัญ กบ-หนุ่ม มาประชันบทบาทกันบนโรง ในปี พ.ศ. 2537 ซึ่งได้รับกระแสตอบรับดีมากๆ จนถึงกับเปิดโปรเจคสร้างภาค 2 กันเลยทีเดียว
![ย้อนดู 9 หนังไทยแนววัยรุ่นมัธยม ที่ปังสุดๆ ในยุค 90 ย้อนดู 9 หนังไทยแนววัยรุ่นมัธยม ที่ปังสุดๆ ในยุค 90](https://image.dek-d.com/contentimg/2016/puy/T3.jpg)
หนุ่มศรราม กับ กบ สุวนันท์ คู่ขวัญในยุค 90 ที่เล่นเรื่องไหนเรื่องนั้นดังระเบิดจ้า
(ภาพประกอบจากภาพยนตร์เรื่อง แบบว่าโลกนี้มี...น้ำเต้าหู้ และครูระเบียบ)
กระโปรงบานขาสั้น
เป็นหนังรักขวัญใจวัยรุ่นยุคนั้นเลยจ้า เรื่องนี้ฉายครั้งแรกใน ปี พ.ศ. 2536 เป็นเรื่องราวความรักของนักเรียนวัยมัธยม แนวแอบรักเพื่อนแต่ไม่กล้าบอก แถมยังมีอุปสรรคขัดขวางเป็นเพื่อนร่วมชั้นอีก กว่าพระนางได้ลงเอยกัน เล่นทำคนดูลุ้นจนฉากสุดท้าย ถ้าใครย้อนไปดูหนังเก่าจะสังเกตได้ ยังเป็นยุคที่นักเรียนหญิงฮิตใส่กระโปรงนักเรียนยาวเกือบตาตุ่ม เสื้อตัวโคล่งๆ อยู่เลย แถมนางเอกยังถักสองเปียด้วย กระแสตอบรับเรื่องนี้ พี่ปุ๋ยก็ไม่อยากอวดอ้างมาก เอาเป็นว่า ดีถึงขนาดต้องสร้างภาค 2 ต่อ กับ กระโปรงบานขาสั้น เทอม 2 ตอน แอบดูบาร์บีคิว ที่เข้าฉายเมื่อปี พ.ศ. 2537 และต่อมา ปี พ.ศ. 2554 เรื่องนี้ยังถูกสร้างเป็นละครทีวีให้ได้แฟนๆ ได้นึกถึงกันอีก เรียกปังจริงอะไรจริงจ้า
303 กล้ว กล้า อาฆาต
น่ารักมิ้งมุ้งๆ กันไปเยอะแล้ว เรื่องนี้ของแหวกแนวกันหน่อยเป็นหนังแนวสยอง ขอบอกว่าถูกอกใจถูกขวัญวัยรุ่นยุคนั้นไม่น้อยกับเรื่อง 303 กลัว กล้า อาฆาต (ปี พ.ศ. 2541) ด้วยความที่เป็นหนังสวนกระแสในตอนนั้นทำให้ดังเปรี้ยงปร้างเกินความคาดหมาย กับเรื่องราวหลอนๆ ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อนักเรียนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันสืบสาเหตุการฆ่าตัวตายของรุ่นพี่ จนเป็นจุดเริ่มต้นของความน่าสะพรึง! และไม่ใช่แค่เนื้อเรื่องหลอนๆ ที่โดนใจผู้ชมเท่านั้น แต่นักแสดงนำฝ่ายชายนี่กวาดหนุ่มหล่อมาหมด อย่างพี่ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ที่อาจจะออกไม่เยอะ แต่ออกทีกรี๊ดหนักมาก, อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม, ริว อาทิตย์ และพี่เวย์ ไทเทเนี่ยม ที่ใครอยากเห็นในมุมใสๆ มาดูได้ที่เรื่องนี้! น้องๆ ล่ะคะอยู่ทีมไหน เลือกเอาที่สบายใจกันจ้า พี่ปุ๋ยขอเลือกทีมพี่ติ๊กเท่านั้น อิอิ
![ย้อนดู 9 หนังไทยแนววัยรุ่นมัธยม ที่ปังสุดๆ ในยุค 90 ย้อนดู 9 หนังไทยแนววัยรุ่นมัธยม ที่ปังสุดๆ ในยุค 90](https://image.dek-d.com/contentimg/2016/puy/T.jpg)
ในส่วนของผู้หญิง มีเทย่า โรเจอร์ที่ดังมากๆ ในยุคนั้นด้วย
ภาพประกอบจากภาพยนตร์เรื่อง 303 กลัว กล้า อาฆาต
กลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้
หนังแก๊งวัยรุ่นในตำนานต้องเรื่องนี้เลยค่ะ กลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้ โด่งดังแบบสุดๆ เนื้อหาโดนใจก๊วนแสบขาโจ๋ประจำโรงเรียนทั้งหลาย โดยเป็นเรื่องราวของ 6 หนุ่มแก๊งหินกลิ้ง แก๊งป่วนประจำโรงเรียน ที่สร้างวีรกรรมไม่เว้นแต่ละวัน เรียกว่าเดินเข้าออกห้องปกครองเป็นว่าเล่น (ห้ามเลียบแบบนะจ๊ะ) เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นได้อย่างชัดเจน ทำให้หนังเรื่องนี้ได้กระแสตอบรับดีมากๆ โดยเข้าฉายครั้งแรกในปี พ.ศ. 2534 ที่มีทั้งพี่มอสและพี่แท่งนำทีมแจ้งเกิดในวงการไปอย่างสวยงาม แถมกวาดรายได้ถล่มทลาย เป็นหนังที่ทำรายได้สูงสุดในยุคนั้น แน่นอนว่าจากกระแสความนิยมที่ได้รับอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดแก๊งหินกลิ้ง รุ่น 2 รุ่น 3 โดยสร้างเป็นบทละครทางทีวี ไม่ว่ารุ่นไหนก็ได้ความนิยม ว่าแต่มีใครทันรุ่นไหนกันบ้างเอ่ย มาแชร์กันหน่อย
![ย้อนดู 9 หนังไทยแนววัยรุ่นมัธยม ที่ปังสุดๆ ในยุค 90 ย้อนดู 9 หนังไทยแนววัยรุ่นมัธยม ที่ปังสุดๆ ในยุค 90](https://image.dek-d.com/contentimg/2016/puy/t6.jpg)
มีใครทันแก็งหินกลิ้งรุ่นบ้าง ต้องทันสักรุ่นสิเนอะ อิอิ
(ภาพประกอบจากภาพยนตร์เรื่องกลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้ และภาพประกอบละครกลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้)
ม.6/2 ห้องครูวารี
ต้องบอกว่าเป็นหนังที่ดูจบแล้วอยากกระโดดหอมแก้มคุณครูเลยค่ะ จุ๊บๆ เป็นหนังที่สื่อถึงมุมมองความรักที่ครูมีต่อลูกศิษย์ เรียกน้ำตาไปหลายปี๊บเลย โดยมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับคุณครูฝึกสอนผู้เสียสละ ไม่เคยทอดทิ้งลูกศิษย์ แม้ลูกศิษย์จะหลงผิดแค่ไหน สุดท้ายแล้วนักเรียนจะทำให้คุณครูสมหวังหรือไม่ต้องลองดูค่ะ เรื่องนี้เข้าฉายครั้งแรกในปี พ.ศ. 2539 จากกระแสที่ปังแล้ว ยังมีประโยคฮิตๆ ที่หลายคนต่างพูดถึง "มีครูผิดคิดจนครูตี มีครูวารีตีก็ตี...ทนได้"
![ย้อนดู 9 หนังไทยแนววัยรุ่นมัธยม ที่ปังสุดๆ ในยุค 90 ย้อนดู 9 หนังไทยแนววัยรุ่นมัธยม ที่ปังสุดๆ ในยุค 90](https://image.dek-d.com/contentimg/2016/puy/t7.jpg)
สังเกตดีๆ แก๊งเพื่อนในเรื่องนี้แต่ละคนมีชื่อเสียงกันทั้งนั้น (ภาพประกอบจากภาพยนตร์เรื่องม.6/2 ห้องครูวารี)
กู๊ดบายซัมเมอร์ เอ้อเหอเทอมเดียว
เรื่องนี้โกอินเตอร์กันหน่อยแถมชื่อเรื่องก็ดูยาวๆ งงๆ ไม่ต้องตกใจไปค่ะ เพราะเป็นยุคที่หนังไทยชอบตั้งชื่อยาวๆ ฮาๆ บางทีอ่านชื่อเรื่องแล้วอยากจะร้อง ห้ะ! อะไรนะ ด้วยซ้ำไป เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของนักเรียนสุดแสบทั้ง 7 คนที่ได้ไปเรียนซัมเมอร์ในต่างประเทศ (ยุคนั้นฮิตส่งน้องๆ มัธยมไปซัมเมอร์ แถมยังเป็นยุคที่ฮิตดารานักแสดงลูกครึ่งซะด้วย) และเรื่องปวดหัวเริ่มตั้งแต่พวกเขาเหยียบเท้าลงบนสนามกันเลยทีเดียว นี่แหละตัวแสบของจริง! ซึ่งระหว่างเรียนได้เกิดเรื่องวุ่นๆ มากมาย และนั่นเป็นจุดเริ่มของมิตรภาพและความผูกพันระหว่างเพื่อน เรื่องนี้เข้าฉายครั้งแรกในปี พ.ศ. 2539 ได้รับกระแสตอบรับดีมากๆ โดยเฉพาะชื่อเรื่องที่ติดหูวัยรุ่นยุคนั้นสุดๆ
มาปิดท้ายด้วยหนังรักวัยรุ่นในตำนานที่ไม่ดูไม่ได้! เรื่องราวของความรักของวัยรุ่นที่เพิ่งจะผ่านพ้นชีวิตมัธยม และกำลังจะเริ่มต้นใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัยโดยมีจักรยานสีแดงเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่จะเกี่ยวข้องยังไงไม่บอก ลองไปดูเองค่ะ เรื่องนี้เข้าฉายครั้งแรกในปี พ.ศ. 2540 และได้สองซุปตาร์ มอส ปฏิภาณ และ ทาทา ยัง มาแสดงนำ แน่นอนกระแสตอบรับปังถล่มทลาย เรื่องรายได้ก็เช่นกันกวาดไปแบบสวยถึง 49 ล้านบาทเป็นหนังอีกเรื่องที่เป็นขวัญใจวัยรุ่นยุคนั้น แถมยังดันให้เพลงประกอบหนังปังไปด้วยกัน ทั้งเพลงจักรยานสีแดง ของพี่เสก โลโซ เพลงเพียงเพือน ของมอสและทาทา และยังจับเอาเพลงแมลงมาเล่นได้อย่างน่ารักน่าชัง จนใครๆ ก็จำวิธีการท่องชื่อวิทยาศาสตร์แมลงได้แม่น เอ้า! ไดทิสสิด ไดทิสสิด ไดทิสสิดคือ... ด้วงดิ่ง แลมไพริด แลมไพริด แลมไพริดคือ... หิ่งห้อย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น